ครบรอบ 10 ปี รัสเซียผนวกดินแดนคาบสมุทรไครเมียจากยูเครน
สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด ทั้งสองฝ่ายยังคงต่อสู้กันตลอดแนวรบ
ตอนนี้เป้าหมายของทางฝั่งยูเครนชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าต้องการทวงคืนดินแดนทั้ง 4 แคว้น ได้แก่ โดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาโปริซเซีย และเครอ์ซอนที่รัสเซียยึดครอง แต่นอกจากทั้ง 4 แคว้น อีกหนึ่งพื้นที่ที่ยูเครนต้องการปลดปล่อยจากรัสเซีย คือ คาบสมุทรไครเมีย ซึ่งวันนี้เป็นวันครบ 10 ปีที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรสำคัญแห่งนี้ไปจากยูเครน
เมื่อวานนี้ ประชาชนชาวรัสเซียจำนวนมาก ได้ไปรวมตัวกันพร้อมกับโบกธงชาติรัสเซียในงานคอนเสิร์ตสำหรับพิธีฉลองครบรอบ 10 ปี การผนวกคาบสมุทรของไครเมียเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย พิธีดังกล่าวถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่บริเวณจัตุรัสแดงใจกลางกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย
ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 5 ด้วยคะแนนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก็ได้มาร่วมงานนี้เช่นเดียวกัน โดยได้ขึ้นพูดบนเวทีว่า การกลับสู่รัสเซียของดินแดนต่างๆ ของยูเครนเป็นเรื่องที่ยากขึ้น แต่การได้คาบสมุทรไครเมียกลับคืนมา ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของรัสเซีย
เหตุใดคาบสมุทรไครเมียจึงมีความสำคัญไม่ใช่แค่กับรัสเซีย แต่ยังรวมถึงยูเครนด้วย โดยโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนเคยกล่าวว่า สงครามรุกรานยูเครนเริ่มต้นตั้งแต่การยึดไครเมียเมื่อปี 2014 และสงครามนี้ต้องจบที่ไครเมีย
“ไครเมีย” พื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของรัสเซีย
คาบสมุทรไครเมียและทะเลดำ เป็นทั้งสมรภูมิรบและจุดเริ่มต้นของสงครามในยูเครนในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมามหาอำนาจจากจักรวรรดิต่างๆ รวมไปถึงจักรวรรดิรัสเซียและสหภาพโซเวียต ได้ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาครอบครองพื้นที่ทะเลดำ
ก่อนที่ในปี 1991 คาบสมุทรไครเมียได้รวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของยูเครนในฐานะสาธารณรัฐปกครองตนเอง ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่และชนพื้นเมืองชาวไครเมียนตาตาร์แสดงเจตจำนงชัดว่าต้องการเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน ขณะที่ประชาคมโลกรับรองอำนาจอธิปไตยยูเครนเหนือไครเมีย
อย่างไรก็ดี จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อยูเครนเกิดการเหตุการณ์ปฏิวัติยูโรไมดานปี 2014 ซึ่งเป็นการขับไล่ผู้นำสายสนับสนุนรัสเซีย และการแสดงเจตจำนงว่ายูเครนจะเป็นส่วนหนึ่งของสังคมยุโรป ไม่ใช่รัสเซีย
ท่ามกลางจังหวะทางการเมืองที่โกลาหล รัสเซียก็ฉกฉวยโอกาสส่งทหารบุกยึดแคว้นไครเมีย ก่อนจะจัดให้มีการลงประชามติผนวกดินแดนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย และหลายประเทศไม่รับรองอธิปไตยของรัสเซียเหนือดินแดนนี้
ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้รัสเซียเข้าครอบครองคาบสมุทรไครเมียของยูเครน เป็นเพราะรัสเซียยังคงติดอยู่ในเรื่องเล่าความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิรัสเซีย รวมถึงความปรารถนาที่จะครองครองทะเลน้ำอุ่นที่สร้างฐานทัพสำหรับเดินเรือได้ตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ทางการทหารที่สำคัญ อย่างไรก็ดี การเข้ามาของรัสเซียได้เข้ามากดทับลิดรอนสิทธิและอัตลักษณ์ของชาวยูเครนและไครเมียนตาตาร์ ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองที่อยู่ในพื้นที่มาอย่างยาวนาน
ขณะเดียวกัน รัสเซียก็ได้ครอบครองฐานทัพเรือที่เซวัสโตปอลและครองอำนาจเหนือน่านน้ำในทะเลดำ ซึ่งเคยเป็นจุดหนึ่งในการประจำการเรือรบ เพื่อใช้ยิงขีปนาวุธร่อนโจมตีแผ่นดินยูเครนในการรุกรานตลอดกว่า 2 ปีที่ผ่านมา นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้กองทัพและหน่วยงานข่าวกรองของยูเครน พยายามโจมตีพื้นที่สำคัญบนคาบสมุทรไครเมียแห่งนี้อยู่เป็นระยะๆ เช่น ฐานทัพเรือในเมืองเซวัสโตปอล เพื่อลดทอนกำลังของรัสเซีย
นักวิชาการชี้ การโจมตีไครเมียสามารถตัดกำลังรัสเซีย
ดร. ฮันนา เชเลสต์ ผู้อำนวยการโครงการความมั่นคง สภานโยบายต่างประเทศ Ukrainian Prism ระบุว่า การโจมตีคาบสมุทรไครเมียมีความสำคัญในแง่ของการทหารสำหรับยูเครนที่กำลังเผชิญสงครามอยู่ในเวลานี้
เนื่องจากอาวุธและโดรนที่ถูกส่งมาเพื่อโจมตีทางอากาศใส่ยูเครน ส่วนใหญ่มาจากคาบสมุทรไครเมีย ดังนั้นการโจมตีไครเมียจะเป็นการกดการโจมตีจากรัสเซียไปด้วยในเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ดี การโจมตีคาบสมุทรไครเมียของยูเครนที่ผ่านมา หลายครั้งต้องใช้อาวุธที่ทันสมัยจากชาติตะวันตก เช่น ATACMS ของสหรัฐฯ หรือ Storm Shadow จากสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส แต่ตอนนี้ยูเครนกำลังเผชิญกับการขาดแคลนอาวุธ เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณความมั่นคง ที่มีความช่วยเหลือของยูเครนรวมอยู่ได้ ทำให้การต่อสู้ต้องชะงักลงคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
แต่ขณะเดียวกัน รัสเซียยังคงได้รับกระสุนและอาวุธจากชาติพันธมิตรของตนเองอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดญี่ปุ่นออกมาแฉว่ารัสเซียใช้ขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือในการโจมตียูเครน
ญี่ปุ่นประณามเกาหลีเหนือส่งขีปนาวุธให้รัสเซีย
เมื่อวานนี้ โยโกะ คามิคาวะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ได้ออกมาแถลงข่าวประณามเกาหลีเหนือและรัสเซีย โดยระบุว่า การที่เกาหลีเหนือสนับสนุนอาวุธให้รัสเซียเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากขัดกับข้อมติของ UNSC ที่รัสเซียเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกถาวร และการใช้ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือโจมตียูเครนเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ได้แถลงข่าวยืนยันว่า ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือจัดส่งให้เกาหลีใต้เป็นขีปนาวุธประเภททิ้งตัวแบบพิสัยใกล้ หรือ short-range ballistic missiles ซึ่งคาดว่าจะเป็นขีปนาวุธรุ่น KN-23
ขีปนาวุธพิสัยใกล้มีอีกชื่อหนึ่งว่า ขีปนาวุธทิ้งตัวทางยุทธวิธี มีพิสัยการร่อนอยู่ที่ไม่เกิน 1,000 กิโลเมตรขีปนาวุธชนิดนี้จะขับเคลื่อนด้วยจรวดหนึ่งลูกหรือหลายลูกในขั้นแรก ก่อนจะเคลื่อนทิ้งตัวลงมาเพื่อโจมตีเป้าหมายที่ระบุไว้ความรุนแรงและความเสียหายจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่ขีปนาวุธพิสัยใกล้บรรทุกว่าเป็นหัวรบระเบิดหรือหัวรบนิวเคลียร์
อย่างไรก็ดี รายงานของสถาบันการศึกษายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ หรือ IISS ชี้ว่า ขีปนาวุธประเภททิ้งตัวแบบพิสัยใกล้ที่เกาหลีเหนือส่งไปช่วยรัสเซีย ไม่มีประสิทธิภาพตามที่รัสเซียคาดหวังไว้ แต่ก็พอช่วยรัสเซียได้ในสนามรบ
นอกจากขีปนาวุธพิสัยใกล้แล้ว ล่าสุดสำนักข่าวไทมส์รายงานวันนี้ โดยอ้างการให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ที่ระบุว่าตั้งแต่ปีที่แล้ว เกาหลีเหนือได้ส่งกระสุนไปให้รัสเซียรวมแล้วกว่า 7,000 ตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อแลกกับความช่วยต่างๆ จำนวนกว่า 9,000 ตู้คอนเทนเนอร์ ที่ถูกส่งมาจากรัสเซีย
คิม จองอึน ตรวจการซ้อมรบใหญ่ของหน่วยขีปนาวุธ
ท่ามกลางการออกมาเปิดเผยโดยเจ้าหน้าที่ทางการเกาหลีใต้เรื่องการส่งอาวุธให้รัสเซีย เมื่อวานนี้ KRT สถานีโทรทัศน์ของทางการเกาหลีเหนือ ได้เผยแพร่ภาพขณะที่คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เดินทางไปเยี่ยมชมการฝึกซ้อมยิงขีปนาวุธครั้งใหญ่ทางภูมิภาคตะวันตกของประเทศ KRT ระบุว่า การฝึกซ้อมดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อทดสอบ "ความสามารถในการทำสงครามจริง" ของเครื่องยิงจรวดขนาดใหญ่พิเศษหลายเครื่อง รวมถึงสร้างขวัญกำลังใจในการต่อสู้และเพิ่มความพร้อมของเจ้าหน้าที่ในหน่วยรบ
ทั้งนี้ การซ้อมรบดังกล่าวมีขึ้นหลังเกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธหลายลูกจนไปตกในทะเลญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองเดือน ก่อนที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นจะออกโรงประณามอย่างหนัก
ในขณะที่รัสเซียได้รับความช่วยเหลือจากพันธมิตรของตนเองอย่างต่อเนื่อง ทางฝั่งยูเครนต้องเผชิญปัญหากับการขาดแคลนอาวุธ เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายที่ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมกับยูเครนได้ นอกจากกระสุนปืนใหญ่แล้ว ตอนนี้สัญญาณความเสี่ยงว่ายูเครนจะขาดแคลนระบบป้องกันภัยทางอากาศยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
คาดปลายเดือนนี้ยูเครนขาดระบบป้องกันภัยทางอากาศ
สำนักข่าววอชิงตันโพสต์ของสหรัฐฯ รายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลชาติตะวันตกที่ไม่ระบุตัวตน ซึ่งเปิดเผยว่า
ยูเครนอาจต้องเผชิญกับการขาดแคลนระบบป้องกันภัยทางอากาศภายในสิ้นเดือนนี้ โดยยูเครนจะสามารถยิงสกัดขีปนาวุธได้เพียง 1 ใน 5 ลูก จากเดิมที่เคยยิงได้ 4 ใน 5 ลูก การยิงสกัดขีปนาวุธที่ลดลงเช่นนี้ จะส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชน เนื่องจากทำให้มีโอกาสที่จะถูกขีปาวุธโจมตีเช่นเดียวกับในช่วงต้นของสงคราม
ในวันที่ยูเครนยังคงรอรัฐสภาสหรัฐฯ อนุมัติร่างงบประมาณที่มีความช่วยเหลือของยูเครนรวมอยู่ด้วย ด้านประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครน ก็ได้หารือร่วมกับเซอร์ลินด์เซย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ที่เดินทางเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันระบุกับผู้นำยูเครนว่า วุฒิสมาชิกรีพับลิกันในสภากว่าร้อยละ 70 สนับสนุนยูเครน แต่ก็อยากให้ยูเครนเข้าใจว่า นักการเมืองสหรัฐฯ ก็ต้องตอบคำถามประชาชนในประเทศเกี่ยวกับนโยบายผู้ลี้ภัยด้วย เช่นกัน
รู้จัก “รยูจุนยอล” นักแสดงมากความสามารถ หนุ่มผู้ครองหัวใจสาวฮันโซฮี
ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก แฉ! เส้นทางการเงิน “นายพล ต.-ครอบครัว”โยงเว็บพนัน BNK
เริ่มแล้ว! พายุฤดูร้อนถล่มหนัก! ฝนตก-ลูกเห็บตก บ้านเรือนเสียหายเพียบ
สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด ทั้งสองฝ่ายยังคงต่อสู้กันตลอดแนวรบ
ตอนนี้เป้าหมายของทางฝั่งยูเครนชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าต้องการทวงคืนดินแดนทั้ง 4 แคว้น ได้แก่ โดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาโปริซเซีย และเครอ์ซอนที่รัสเซียยึดครอง แต่นอกจากทั้ง 4 แคว้น อีกหนึ่งพื้น…